เทคนิคการเสริมทักษะการสื่อสารในเด็กออทิสติก

เทคนิคการเสริมทักษะการสื่อสารในเด็กออทิสติก
ทำไมต้องเสริมทักษะการสื่อสาร
1. ใช้การสื่อสารในชีวิตประจำวัน (Natural Communication)
ทุกครั้งที่เด็กสามารถสื่อสารได้ ไม่ว่าจะด้วยคำพูด ภาพ หรือท่าทาง ถือเป็น ก้าวสำคัญสู่ความมั่นใจและความเป็นอิสระในชีวิต
ทำไมต้องเสริมทักษะการสื่อสาร
- เด็กออทิสติกบางคนอาจพูดได้ บางคนพูดได้น้อย หรือบางคนไม่พูดเลย
- การสื่อสารไม่ได้หมายถึง คำพูดเท่านั้น แต่รวมถึง ท่าทาง ภาษากาย ภาพ และเทคโนโลยีช่วยสื่อสาร
- เสริมทักษะการสื่อสารช่วยให้เด็ก แสดงความต้องการ ลดความหงุดหงิด และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
1. ใช้การสื่อสารในชีวิตประจำวัน (Natural Communication)
- ฝึกสื่อสารผ่านกิจวัตร เช่น ตอนกินข้าว อาบน้ำ เล่น
- ตัวอย่าง: ยื่นแก้วน้ำให้ลูก แล้วรอให้ลูกสื่อสาร (ด้วยคำพูด ท่าทาง หรือการ์ดภาพ) ก่อนเติมน้ำให้
- ตารางกิจวัตรประจำวัน (visual schedule)
- การ์ดภาพ (PECS: Picture Exchange Communication System)
- แผนภาพอารมณ์ เพื่อให้เด็กบอกได้ว่ารู้สึกอย่างไร
3. เทคโนโลยีช่วยสื่อสาร (AAC: Augmentative and Alternative Communication)
- แอปพลิเคชันในแท็บเล็ตที่กดรูปภาพแล้วมีเสียงพูด
- อุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยพูดแทนเด็ก
- เล่นบทบาทสมมติ เช่น เล่นร้านขายของ เด็กฝึกพูด เอาอันนี้ หรือ เท่าไหร่
- ใช้ดนตรีและศิลปะเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กแสดงออก
- อย่ารีบทำทุกอย่างให้ลูก แต่ปล่อย ช่องว่าง เพื่อให้เขาพยายามสื่อสาร
- เช่น เก็บของเล่นไว้ในกล่อง ให้ลูกขอความช่วยเหลือก่อนเปิด
- ใช้เกมง่าย ๆ ที่ผลัดกันเล่น เช่น ต่อบล็อก ผลัดกันโยนบอล
- สอนให้รอคิว พูด-ฟัง สลับกัน
- ใช้ประโยคสั้น ๆ คำง่าย ๆ เช่น นั่งก่อน แทน ลูกควรนั่งลงนะครับ
- พูดช้า ชัดเจน และทำซ้ำหากจำเป็น
- เป็น แบบอย่างการสื่อสาร ที่ชัดเจน
- ชื่นชมทุกครั้งที่เด็กพยายามสื่อสาร ไม่ว่าจะรูปแบบใด
- ทำงานร่วมกับนักบำบัดการพูด (Speech Therapist) เพื่อออกแบบกลยุทธ์เฉพาะสำหรับเด็กแต่ละคน
ทุกครั้งที่เด็กสามารถสื่อสารได้ ไม่ว่าจะด้วยคำพูด ภาพ หรือท่าทาง ถือเป็น ก้าวสำคัญสู่ความมั่นใจและความเป็นอิสระในชีวิต
บทความที่เกี่ยวข้อง
ความวิตกกังวล (Anxiety) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยมากในบุคคลออทิสติก
งานวิจัยระบุว่า มากกว่า 40–50% ของเด็กออทิสติกมีภาวะวิตกกังวลในระดับที่ต้องการการดูแล
ARFID (Avoidant/Restrictive Food Intake Disorder) คือความผิดปกติด้านการกินที่เด็กปฏิเสธอาหารบางชนิดอย่างรุนแรง หรือรับประทานอาหารได้น้อยมาก จนอาจทำให้ขาดสารอาหาร น้ำหนักไม่เพิ่มตามวัย หรือพัฒนาการชะงักได้
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กออทิสติก แต่ ด้วยการเตรียมล่วงหน้า กิจวัตรที่ชัดเจน การสนับสนุนทางอารมณ์ และความร่วมมือกับโรงเรียน จะช่วยให้เด็กค่อย ๆ ปรับตัวได้ดีขึ้น ลดพฤติกรรมที่ยากลำบาก และสร้างความมั่นใจในการเผชิญสิ่งใหม่ ๆ


