แชร์

ออทิสติกและภาวะ “ไม่พูดในบางสถานการณ์” (Autism and Selective Mutism)

ออทิสติกและภาวะ ไม่พูดในบางสถานการณ์ (Autism and Selective Mutism)

  • เด็กบางคนที่มีภาวะออทิสติกอาจ พูดได้ตามปกติที่บ้านหรือกับคนสนิท
    แต่เมื่ออยู่ในโรงเรียนหรือสถานที่ใหม่ ๆ กลับ เงียบ ไม่พูดเลย
  • นี่ไม่ใช่การ ดื้อ หรือ ขี้อาย ธรรมดา แต่เป็นภาวะที่เรียกว่าSelective Mutism (SM) การไม่สามารถพูดได้ในบางสถานการณ์ทางสังคม เนื่องจากความวิตกกังวลสูงมาก
  • ภาวะนี้พบได้บ่อยในเด็กที่มี ออทิสติก เพราะทั้งสองภาวะมีรากฐานร่วมกันในเรื่อง ความวิตกกังวลทางสังคมและการประมวลผลอารมณ์ที่ต่างจากคนทั่วไป

ความสัมพันธ์ระหว่างออทิสติกกับ Selective Mutism

  • งานวิจัยชี้ว่า เด็กที่มีออทิสติกมีโอกาสเป็น Selective Mutism สูงกว่าคนทั่วไปหลายเท่าทั้งสองภาวะมักเกิดจาก
  • ความเครียดในสถานการณ์สังคม
  • ความกลัวการถูกตัดสิน (social judgment)
  • ความยากในการตีความสีหน้าและน้ำเสียงของผู้อื่น
  • ความไวทางประสาทสัมผัส (sensory sensitivity)
  • เด็กบางคนมีภาวะ ซ้อนกัน คือทั้งออทิสติกและ SM ซึ่งต้องใช้แนวทางการช่วยเหลือที่ละเอียดและเฉพาะตัว
ลักษณะของ Selective Mutism
  • พูดได้ตามปกติที่บ้าน แต่ เงียบสนิท ในโรงเรียน หรือกับคนที่ไม่คุ้นเคย
  • มักแสดงอาการวิตก เช่น หน้าซีด หลีกเลี่ยงการสบตา กัดปาก กำมือแน่น หรือแข็งตัว
  • อาจสื่อสารด้วย ภาษากาย เช่น พยักหน้า ส่ายหน้า หรือเขียนแทนการพูด
  • ไม่สามารถเริ่มต้นพูดได้ แม้จะ อยากพูด เพราะความกลัวทำให้กล้ามเนื้อคอและเสียงเกร็ง (เป็นกลไกทางร่างกายจากความวิตกกังวล)
  • หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ อาการอาจคงอยู่จนถึงวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

  1. ความวิตกกังวลทางสังคม (Social Anxiety) กลัวทำผิดหรือถูกหัวเราะ
  2. ความไวต่อสิ่งเร้า (Sensory Sensitivity) เสียงดัง กลิ่น หรือคนเยอะเกินไป
  3. การยากในการตีความอารมณ์คนอื่น (Social Processing Difficulty)
  4. พฤติกรรมการยึดติดกับความคุ้นเคย (Rigidity) ทำให้การเปลี่ยนสถานที่หรือผู้คนใหม่ ๆ ยากขึ้น
  5. ประสบการณ์เชิงลบในอดีต เคยถูกล้อเลียนเมื่อพูดผิด

การแยกแยะ Selective Mutism กับ การไม่พูด แบบอื่นในออทิสติก

ประเภท ลักษณะ สาเหตุหลัก วิธีช่วย
Selective Mutism พูดได้ในบางสถานการณ์เท่านั้น ความวิตกกังวลทางสังคม สร้างความมั่นใจ ค่อย ๆ เพิ่มสถานการณ์ที่ปลอดภัย
Nonverbal Autism พูดไม่ได้ในทุกสถานการณ์ ปัญหาด้านภาษาและประสาท ใช้การสื่อสารทางเลือก (AAC, ภาพ, ท่าทาง)
Situational Silence (การเงียบชั่วคราว) เงียบเพราะเหนื่อย/เครียด ความอ่อนล้าทางอารมณ์ ให้พักและลดสิ่งเร้า

 

แนวทางการช่วยเหลือ

1. ลดแรงกดดัน

  • อย่าบังคับให้พูด เช่น พูดสิลูก หรือ แค่ตอบหน่อย
  • ให้เวลาและพื้นที่ เด็กต้องรู้สึกปลอดภัยก่อนถึงจะพูดได้
  • หลีกเลี่ยงการจ้องสายตาหรือคาดหวังคำตอบทันที

2. เริ่มจากการสื่อสารที่ไม่ใช้คำพูด

  • ใช้ ภาพ การ์ดสัญลักษณ์ หรือการเขียนข้อความ
  • ช้ท่าทาง เช่น ชี้ พยักหน้า ยกมือ
  • เมื่อเด็กสบายใจขึ้น ค่อย ๆ เพิ่มการพูดสั้น ๆ เช่น ใช่/ไม่ใช่
3. เทคนิคการเปิดรับแบบค่อยเป็นค่อยไป (Gradual Exposure)
  • เริ่มจากสถานที่ที่เด็กคุ้นเคยและรู้สึกปลอดภัย เช่น ห้องในบ้าน
  • จากนั้นค่อยเพิ่มคน เช่นจาก เเม่ - ครู - เพื่อน
  • ใช้กิจกรรมที่เด็กชอบ (เช่น เล่นของเล่น) เพื่อสร้างความผ่อนคลายก่อนพูด
  • เป้าหมายคือให้ การพูด กลับมาอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่จากการบังคับ

4. การใช้เทคโนโลยีช่วย

  • บางเด็กกล้าพูดผ่าน วิดีโอ หรือ เครื่องบันทึกเสียง ก่อนพูดตรงหน้า
  • ใช้แอปหรือโปรแกรมสื่อสาร (AAC) เพื่อฝึกการโต้ตอบในรูปแบบปลอดภัย

5. การเสริมแรงเชิงบวก (Positive Reinforcement)

  • ชื่นชมทุกความพยายาม แม้เพียงการพยักหน้าหรือกระซิบเบา ๆ
  • ใช้รางวัลเล็ก ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจ
  • อย่าทำให้ การพูด เป็นเรื่องใหญ่เกินไป ควรเป็นการเสริมแรงอย่างเป็นธรรมชาติ

6. ความร่วมมือระหว่างบ้านและโรงเรียน

  • ครูควรเข้าใจว่าเด็กไม่ได้ เงียบเพราะดื้อ
  • ควรให้สัญญาณล่วงหน้าหากจะมีการเรียกตอบในชั้น
  • จัดสภาพแวดล้อมห้องเรียนที่ลดสิ่งกระตุ้น เช่น เสียงเบา แสงนุ่ม
  • ใช้เพื่อนที่เด็กไว้ใจเป็น buddy เพื่อช่วยสื่อสารเบื้องต้น

7. การบำบัดเฉพาะทาง

  • Cognitive Behavioral Therapy (CBT) แบบปรับให้เหมาะกับเด็กออทิสติก
  • Speech and Language Therapy (SLT) สำหรับการฝึกพูดและความมั่นใจในการสื่อสาร
  • Occupational Therapy (OT) เพื่อช่วยจัดการกับ sensory overload

สิ่งที่ผู้ปกครองสามารถทำได้ที่บ้าน
  1. สื่อสารด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่เร่งเร้า
  2. ให้ลูกมีสิทธิ์เลือกว่าจะตอบเมื่อไร
  3. ชมเชยทุกครั้งที่ลูกพยายามพูด แม้เพียงเล็กน้อย
  4. ร่วมมือกับครูและนักบำบัดให้ใช้แนวทางเดียวกัน
  5. เตรียมลูกล่วงหน้าก่อนเจอสถานการณ์ใหม่ ๆ

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

  1. บังคับให้พูดต่อหน้าคนอื่น
  2. ตำหนิหรือล้อเลียนเมื่อลูกไม่พูด
  3. เปรียบเทียบกับพี่น้องหรือเพื่อน
  4. ใช้การลงโทษเพื่อให้พูด จะเพิ่มความกลัวและทำให้อาการแย่ลง

 บทสรุป

  • Selective Mutism ในออทิสติกไม่ใช่การเงียบเพราะขี้อาย แต่เป็นการ พูดไม่ได้ จากความวิตกกังวลสูงมาก
  • เด็กต้องการ ความเข้าใจ ความอดทน และความปลอดภัย มากกว่าการเร่งรัด
  • การค่อย ๆ เปิดรับสถานการณ์ การใช้การสื่อสารทางเลือก และการให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เด็กสามารถ คืนเสียงของตนเอง ได้ในที่สุด

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
การจัดการพฤติกรรมและการกำกับตัวเอง
การจัดการพฤติกรรม (Behavior management) หมายถึงกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์และเพิ่มพฤติกรรมทดแทนที่เหมาะสม
กลยุทธ์การรับมือ “ความวิตกกังวลในออทิสติก”
ความวิตกกังวล (Anxiety) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีภาวะออทิสติก บางครั้งอาการอาจไม่แสดงออกเหมือนคนทั่วไป เด็กอาจเงียบ หลีกหนี ซ้ำพฤติกรรม หรือเกิดการระเบิดอารมณ์เมื่อเครียด
การวินิจฉัยออทิสติกในวัยเด็กตอนต้น
การวินิจฉัยตั้งแต่ระยะต้นช่วยให้เด็กได้รับการสนับสนุนและการรักษาที่ ปรับเฉพาะตามความต้องการ ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร การเข้าสังคม และพฤติกรรมพื้นฐานได้ดีขึ้นในระยะยาว
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy