แชร์

ออทิสติกคืออะไร ออทิสติกเทียมมีจริงหรือไม่

ออทิสติกคืออะไร ออทิสติกเทียมมีจริงหรือไม่


        ออทิสติกหรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ASD เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสมองส่งผลให้เกิดความบกพร่องต่อพัฒนาการและการเรียนรู้  มีอาการสำคัญ 3 ด้าน คือ


ด้านภาษา 
- ไม่หันตามเสียงเรียก ไม่รู้จักชื่อของตนเอง ไม่เข้าใจความหมายของคำศัพท์ ไม่เข้าใจคำสั่ง ไม่เข้าใจคำถาม
- ไม่ส่งเสียง ไม่เล่นเสียง ไม่พูดคำที่มีความหมาย พูดภาษาการ์ตูน ใช้ท่าทางเพื่อแสดง ความต้องการแทนการพูด

ด้านพฤติกรรม 
- มีพฤติกรรมซ้ำ ๆ (กระตุ้นตัวเอง) หรือทำกิจกรรมรูปแบบเดิม เช่น กระโดด สะบัดมือ  เล่นมือ หมุนตัว เดินเขย่ง โยกตัว ชอบเรียงวัตถุต่อกัน กินอาหารแบบเดิม ทำกิจวัตรประจำวันรูปแบบเดิมซ้ำ ๆ 
- ให้ความสนใจกับบางสิ่งเป็นพิเศษ เช่น วัตถุที่กำลังหมุน พัดลม หลอดไฟ หลอด
- ประสาทสัมผัสรับความรู้สึกที่มากหรือน้อยเกินไป เช่น กลัวหรือติดการสัมผัส ติดการดมกลิ่น กลัวเสียงดัง 
- ในเด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมมองขวาง กัดฟัน กระพริบตาถี่ ๆ เคาะโต๊ะหรือวัตถุอื่น ๆ  และอาจมีเรื่องพฤติกรรมทำร้ายตนเองและผู้อื่นด้วย เช่น กัดมือ โขกหัวกับพื้น ทุบหน้าอกหรือศีรษะ วิ่งชนกำแพง หยิก ข่วน เป็นต้น

ด้านการเข้าสังคม
- มีปัญหาปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น เข้าหาผู้อื่นไม่เหมาะสม ไม่มองหน้าสบตา ไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียก เฉยเมย แยกตัวอยู่คนเดียว ไม่เล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน ไม่เข้าใจการสื่อสารทางสายตา สีหน้า ท่าทาง และไม่สนใจการทำงานหรือกิจกรรมร่วมกับใคร 

      อาการสำคัญทั้ง 3 ด้านเป็นเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรคออทิสติก โดยอาการแสดง จะเห็นชัดเจนเมื่ออยู่ในช่วงอายุก่อน 3 ปี อาการจะแตกต่างกันออกไป เนื่องจากระดับความรุนแรงของโรคมีช่วงจากน้อยไปมาก ทำให้การวินิฉัยของแพทย์ขึ้นอยู่กับว่าได้เจอเด็กในช่วงวัยใด ระดับความสามารถของเด็กเป็นอย่างไร เพราะเด็กสามารถพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้ตามพัฒนาการ หากไม่เข้าเกณฑ์การวินิจฉัยครบทั้ง 3 ข้อ อาจหมายถึงเด็กมีพัฒนาการล่าช้าในด้านนั้น 


ออทิสติกเทียมมีจริงหรือไม่
       คำว่า ออทิสติกเทียม เป็นคำยอดฮิตที่พบได้บ่อยในปัจจุบันนี้เป็นอย่างมากทางกุมารแพทย์หลายแห่งได้อธิบายไปในทิศทางเดียวกันว่า ออทิสติกเทียมเกิดจากการที่เด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะต่อการเรียนรู้ ทำให้เด็กมีปัญหาการพูดล่าช้า เช่น เด็กไม่เคยได้รับการกระตุ้นเรื่องการพูดเลย ไม่มีคนชวนคุย ชวนเล่นหรือมีปฏิสัมพันธ์ ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อนเลย ทำให้ไปปิดกั้นพัฒนาการที่ควรจะพัฒนาให้เป็นไปตามวัย ปล่อยให้เด็กใช้เวลาอยู่กับจอเป็นระยะเวลานานตั้งแต่ยังเด็กเป็นต้น ส่งผลให้การเข้าสังคมมีปัญหาด้วยเช่นกัน และมีพฤติกรรมซ้ำร่วมด้วย จึงมักใช้คำว่า ออทิสติกเทียม พูดถึงเด็กที่มีอาการคล้ายเด็กออทิสติก แต่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุของโรคออทิสติก 

      ในทางการแพทย์นั้นไม่มีการบัญญัติ คำว่า เทียม ในโรคดังกล่าวเลย ดังนั้นให้คำนึงว่าจะวินิจฉัยเป็นออทิสติกหรือไม่ โดยแพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นหรือไม่เป็น ซึ่งอาการมีตามระดับความรุนแรงของโรคเป็นช่วงกว้างจากน้อยไปมาก จึงสรุปได้ว่า "ออทิสติกเทียมไม่ได้ถูกบัญญัติตามเกณฑ์วินิจฉัยโรค" เมื่อมีอาการครบทั้งสามด้าน จึงต้องทำความเข้าใจ สังเกตอาการและยอมรับความล่าช้าทางพัฒนาการของเด็ก เพื่อส่งเสริมการกระตุ้นพัฒนาการให้รวดเร็วและต่อเนื่องให้ได้มากที่สุด นำไปสู่ความสามารถในการทำกิจวัตประจำวัน การเข้าสังคม และการเรียนต่อไป


บทความที่เกี่ยวข้อง
ภาวะการแพ้กลูเตน และโรคเซลิแอค กับ เด็กออทิสติก
•กลูเตนคือโปรตีนที่พบในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และมอลต์ •ใช้เป็นสารเพิ่มความหนืด รสชาติ หรือความคงตัวในอาหาร •แม้ข้าวโอ๊ตจะไม่มีกลูเตนโดยธรรมชาติ แต่เสี่ยงปนเปื้อน จึงมักแนะนำให้หลีกเลี่ยง •อาหารที่มักมีกลูเตน ได้แก่ พิซซ่า แครกเกอร์ พาสต้า คุกกี้ ขนมปัง เบเกิล และเบียร์
10 อันดับน้ำมันหอมระเหยที่ดีสำหรับเด็กออทิสติก และ เด็กสมาธิสั้น
น้ำมันหอมระเหย (Essential oils) คือของเหลวที่กลั่นจากส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ใบ ดอก เปลือกไม้ ราก ฯลฯ ใช้บำบัดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
กิจวัตรประจำวัน เรื่องเล็ก ๆ ที่สำคัญ
การช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวัตรประจำวัน เป็นทักษะสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้ปกครองควรส่งเสริมให้เด็กมีพื้นฐานที่ดี เพราะกิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งจำเป็นที่เด็กทุกคนต้องทำประจำไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหาร การแต่งกาย การขับถ่าย และการดูแลความสะอาดของร่างกาย
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy