แชร์

เล่นอย่างไร ให้ส่งเสริมพัฒนาการ

การเล่น เป็นกิจกรรมการดำเนินชีวิตที่สำคัญในวัยเด็ก มีส่วนช่วยให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการสมวัยในทุก ๆ ด้าน เช่น พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก พัฒนาการด้านภาษา และพัฒนาการด้านการเข้าสังคม เป็นต้น


ประโยชน์ของการเล่น
  • ช่วยให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ
  • ช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการสมวัยในทุก ๆ ด้าน
  • ช่วยพัฒนาความคิดความเข้าใจขั้นสูง (Executive Function : EF) เช่น การรอคอย การวางแผน การแก้ไขปัญหา การควบคุมตนเอง
  • ช่วยลดเวลาในการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์และลดการเกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากการใช้สื่อ เช่น การติดจอ การมีพฤติกรรมเลียนแบบจากสื่อหรือการ์ตูน

พัฒนาการการเล่นในแต่ละช่วงวัย

0-2 ปี : เด็กวัยนี้จะเล่นผ่านประสาทสัมผัส โดยใช้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อสำรวจสิ่งรอบตัว เช่น การเอื้อมมือไปหยิบจับสิ่งของ หยิบเอาของเข้าปาก คลานหรือเกาะยืนเพื่อสำรวจ

2-3 ปี : เด็กวัยนี้จะเล่นแบบการสร้าง เป็นการใช้ของเล่นสร้างสิ่งหนึ่งขึ้นมาตามจินตนาการ เช่น การปั้นดินน้ำมัน การต่อบล็อกแบบต่าง ๆ

3-4 ปี : เด็กวัยนี้จะมีการเล่นสมมติโดยใช้อุปกรณ์เพื่อแทนเป็นของอีกสิ่งหนึ่ง เช่น การใช้กล้วยแทนโทรศัพท์ การใช้ไม้แทนดาบ

4-6 ปี : เด็กวัยนี้จะเริ่มมีการเล่นทางสังคมมากขึ้น เล่นบทบาทสมมติเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนและใกล้เคียงกับบริบทจริง เช่น การป้อนอาหารตุ๊กตา เล่นขายของ เล่นเป็นตำรวจจับผู้ร้าย หรือเลียนแบบตัวละครจากนิทานหรือการ์ตูนที่เด็กสนใจ

6-12 ปี : เด็กวัยนี้จะเล่นแบบมีกฎ กติกา มีการสลับกันเล่น วางแผนการเล่น มีความเข้าใจการตัดสินผล แพ้-ชนะ เช่น เกมบันไดงู เกมเศรษฐี บิงโก เป็นต้น

12 ปี ขึ้นไป : เด็กในวัยนี้จะเลือกทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจ ทำกิจกรรมเป็นกลุ่มที่ต้องอาศัยความร่วมมือกัน เช่น กิจกรรมการประดิษฐ์ที่ซับซ้อน การเล่นกีฬาเป็นทีม

      การเล่นมีส่วนสำคัญในการพัฒนาทักษะของเด็กเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้ปกครองจึงมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการด้านการเล่นให้เหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อให้เด็กเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
4 วิธีช่วยให้ลูกออทิสติกผ่านวันหยุดไปได้อย่างราบรื่น
สำหรับบางครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกเป็นออทิสติก ช่วงวันหยุดกลับกลายเป็นช่วงที่เต็มไปด้วยความเครียดและความกังวล เพราะพ่อแม่มักกังวลว่าประเพณีและความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในกิจวัตรประจำวัน จะส่งผลอย่างไรกับลูกของตน
ภาวะการแพ้กลูเตน และโรคเซลิแอค กับ เด็กออทิสติก
•กลูเตนคือโปรตีนที่พบในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และมอลต์ •ใช้เป็นสารเพิ่มความหนืด รสชาติ หรือความคงตัวในอาหาร •แม้ข้าวโอ๊ตจะไม่มีกลูเตนโดยธรรมชาติ แต่เสี่ยงปนเปื้อน จึงมักแนะนำให้หลีกเลี่ยง •อาหารที่มักมีกลูเตน ได้แก่ พิซซ่า แครกเกอร์ พาสต้า คุกกี้ ขนมปัง เบเกิล และเบียร์
10 อันดับน้ำมันหอมระเหยที่ดีสำหรับเด็กออทิสติก และ เด็กสมาธิสั้น
น้ำมันหอมระเหย (Essential oils) คือของเหลวที่กลั่นจากส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ใบ ดอก เปลือกไม้ ราก ฯลฯ ใช้บำบัดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy