การวินิจฉัยออทิสติกในวัยเด็กตอนต้น

การวินิจฉัยออทิสติกในวัยเด็กตอนต้น
ทำไมการวินิจฉัยแต่เนิ่นๆถึงสำคัญ
การวินิจฉัยออทิสติกตั้งแต่เนิ่นช่วยเปิดประตูสู่การแทรกแซงที่มีประสิทธิผลและลดผลกระทบระยะยาวต่อพัฒนาการของเด็ก จึงควรเริ่มจากการคัดกรอง หากพบความเสี่ยงให้รีบทำการประเมินเชิงลึกร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และเริ่มแผนการสนับสนุนที่เหมาะสมทันที
ทำไมการวินิจฉัยแต่เนิ่นๆถึงสำคัญ
- การวินิจฉัยตั้งแต่ระยะต้นช่วยให้เด็กได้รับการสนับสนุนและการรักษาที่ ปรับเฉพาะตามความต้องการ ได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร การเข้าสังคม และพฤติกรรมพื้นฐานได้ดีขึ้นในระยะยาว
- การวินิจฉัยเร็วยังช่วยลดการตีตราหรือการตีความพฤติกรรมผิด ๆ (เช่น ถูกมองว่า ก้าวร้าว หรือ เกเร) ในโรงเรียน
- ไม่หันตามเสียงเรียกชื่อหรือไม่สบตาตามวัย, พูดช้าหรือไม่มีคำพูดเมื่อถึงอายุที่ควรพูด, ไม่เล่นเลียนแบบ หรือเล่นแบบซ้ำ ๆ (repetitive play)
- ขาดการชวนแบ่งปันความสนใจ (ไม่ชี้ให้ดูสิ่งที่ตนสนใจ), ตอบสนองต่อการสัมผัสหรือสิ่งเร้าทางประสาทสัมผัสผิดปกติ (ไวเกินหรือทนไม่ได้).
- หากผู้ปกครองหรือครูสงสัย ควรเริ่มขั้นตอนคัดกรองทันทีเพื่อไม่พลาดโอกาสรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
กระบวนการเบื้องต้น: การคัดกรอง (Screening)
- การคัดกรองพัฒนาการ (Developmental screening) ควรทำเป็นประจำระหว่างการตรวจสุขภาพเด็ก: ใช้แบบคัดกรองมาตรฐาน เช่น M-CHAT (Modified Checklist for Autism in Toddlers) เพื่อประเมินสัญญาณพื้นฐาน.
- หากคัดกรองพบความเสี่ยง แพทย์จะส่งต่อเพื่อการประเมินเชิงลึก (comprehensive diagnostic evaluation). อย่ารอให้เด็กโตขึ้น ยิ่งเร็วยิ่งดี
- การวินิจฉัยมักทำโดย ทีมสหวิชาชีพ ซึ่งอาจรวมถึง: กุมารแพทย์พัฒนาการ, จิตแพทย์เด็ก, นักพฤติกรรมบำบัด (BCBA), นักการพูด/ภาษา (SLP), นักกิจกรรมบำบัด (OT) และนักโภชนาการ/นักจิตวิทยา ตามความจำเป็น
- ขั้นตอนประเมินรวม: สัมภาษณ์ผู้ปกครอง, แบบประเมินพฤติกรรมมาตรฐาน , การสังเกตพฤติกรรมจริงในสถานการณ์ต่าง ๆ, การทดสอบทักษะภาษาและการสื่อสาร และการประเมินปัญหาสุขภาพร่วมอื่น ๆ (เช่น การได้ยิน)
- แพทย์จะพิจารณาว่าพฤติกรรมเกิดจากออทิสติกจริงหรือมาจากสาเหตุอื่น เช่น ปัญหาการได้ยิน พัฒนาการล่าช้าเฉพาะด้าน หรือภาวะทางการแพทย์อื่น ๆ จึงอาจมีการส่งตรวจเพิ่มเติมตามข้อบ่งชี้ (เช่น ตรวจการได้ยิน, ตรวจทางพันธุกรรม, หรือการตรวจทางระบบประสาท)
การวินิจฉัยออทิสติกตั้งแต่เนิ่นช่วยเปิดประตูสู่การแทรกแซงที่มีประสิทธิผลและลดผลกระทบระยะยาวต่อพัฒนาการของเด็ก จึงควรเริ่มจากการคัดกรอง หากพบความเสี่ยงให้รีบทำการประเมินเชิงลึกร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และเริ่มแผนการสนับสนุนที่เหมาะสมทันที
บทความที่เกี่ยวข้อง
การจัดการพฤติกรรม (Behavior management) หมายถึงกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์และเพิ่มพฤติกรรมทดแทนที่เหมาะสม
ความวิตกกังวล (Anxiety) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีภาวะออทิสติก บางครั้งอาการอาจไม่แสดงออกเหมือนคนทั่วไป เด็กอาจเงียบ หลีกหนี ซ้ำพฤติกรรม หรือเกิดการระเบิดอารมณ์เมื่อเครียด
เด็กบางคนที่มีภาวะออทิสติกอาจ พูดได้ตามปกติที่บ้านหรือกับคนสนิท
แต่เมื่ออยู่ในโรงเรียนหรือสถานที่ใหม่ ๆ กลับ “เงียบ” ไม่พูดเลย


