แชร์

ทำความรู้จักกับ TMS คืออะไร ทำงานอย่างไร ใช้ในเด็กกลุ่มใดได้บ้าง?

ทำความรู้จักกับ TMS คืออะไร ทำงานอย่างไร ใช้ในเด็กกลุ่มใดได้บ้าง?

           Transcranial Magnetic Stimulation (TMS) เป็นเครื่องกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก เมื่อกระแสไฟฟ้าถูกส่งผ่านเข้าไปในขดลวด (TMS coil) จะเหนี่ยวนำทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก เมื่อสนามแม่เหล็กถูกทาบลงบนศีรษะ เซลล์ประสาทที่เปรียบเสมือนขดลวดอีกอันหนึ่งจะเหนี่ยวนำทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลเวียนภายในเปลือกสมองโดยที่ไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นสมองโดยตรง โดยคลื่นแม่เหล็กที่ถูกปล่อยออกมาจะมีความกว้าง ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บที่ศีรษะ และปลอดภัยสำหรับเด็ก

 TMS ทำงานอย่างไร? 
          TMS จะเข้าไปทำให้คลื่นสมองมีการเปลี่ยนแปลง เกิดการปรับการทำงานของสารสื่อประสาทภายในสมอง ทำให้เซลล์สมองมีการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น ส่งผลให้เซลล์สมองทำงานและสั่งการได้ดียิ่งขึ้น 

TMS ใช้ในเด็กกลุ่มใดได้บ้าง?
          ในปัจจุบัน TMS นับว่าเป็นการรักษาแบบทางเลือกที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ตามลำดับร่วมกับการฝึกพัฒนาการอื่น ๆ โดยสามารถใช้รักษาในกลุ่มเด็กที่มีปัญหาด้านพัฒนาการทางสมอง ได้แก่
- ออทิสติก (Autism Spectrum Disorder : ASD)
- สมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder : ADHD)
- บกพร่องทางทักษะการเรียนรู้ (Learning Disorder : LD)
- พัฒนาการช้า (Delayed Development)

ตำแหน่งของสมองที่ใช้ในการกระตุ้นด้วย TMS มีอะไรบ้าง?
           สมองใหญ่ของเราแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ สมองใหญ่ส่วนหน้า, สมองใหญ่ส่วนข้าง, สมองใหญ่ส่วนขมับ และสมองใหญ่ส่วนท้ายทอย ซึ่งแต่ละส่วนก็จะมีการทำงานที่แตกต่างกันไป
- สมองใหญ่ส่วนหน้า (Frontal lobe) : เกี่ยวข้องกับความคิด ความจำ สมาธิ การพูด การแก้ไขปัญหา สติปัญญาขั้นสูง การจัดการอารมณ์และความรู้สึก
- สมองใหญ่ส่วนข้าง (Parietal lobe) : เกี่ยวข้องกับการรับรู้ความรู้สึกต่าง ๆ เช่น การรับรู้กลิ่น การรับรู้รสชาติ
- สมองใหญ่ส่วนขมับ (Temporal lobe) : เกี่ยวข้องกับความจำ การได้ยิน การเข้าใจภาษา 
- สมองใหญ่ส่วนท้ายทอย (Occipital lobe) : เกี่ยวข้องกับการรับรู้ทางสายตา การมองเห็น

       อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งต่าง ๆ ในการกระตุ้นจะถูกออกแบบตามอาการหรือปัญหาของเด็กแต่ละคนโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น


บทความที่เกี่ยวข้อง
ภาวะการแพ้กลูเตน และโรคเซลิแอค กับ เด็กออทิสติก
•กลูเตนคือโปรตีนที่พบในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และมอลต์ •ใช้เป็นสารเพิ่มความหนืด รสชาติ หรือความคงตัวในอาหาร •แม้ข้าวโอ๊ตจะไม่มีกลูเตนโดยธรรมชาติ แต่เสี่ยงปนเปื้อน จึงมักแนะนำให้หลีกเลี่ยง •อาหารที่มักมีกลูเตน ได้แก่ พิซซ่า แครกเกอร์ พาสต้า คุกกี้ ขนมปัง เบเกิล และเบียร์
10 อันดับน้ำมันหอมระเหยที่ดีสำหรับเด็กออทิสติก และ เด็กสมาธิสั้น
น้ำมันหอมระเหย (Essential oils) คือของเหลวที่กลั่นจากส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ใบ ดอก เปลือกไม้ ราก ฯลฯ ใช้บำบัดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
กิจวัตรประจำวัน เรื่องเล็ก ๆ ที่สำคัญ
การช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวัตรประจำวัน เป็นทักษะสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้ปกครองควรส่งเสริมให้เด็กมีพื้นฐานที่ดี เพราะกิจวัตรประจำวันเป็นสิ่งจำเป็นที่เด็กทุกคนต้องทำประจำไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหาร การแต่งกาย การขับถ่าย และการดูแลความสะอาดของร่างกาย
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy