กลยุทธ์การรับมือ “ความวิตกกังวลในออทิสติก”

กลยุทธ์การรับมือ ความวิตกกังวลในออทิสติก
- ความวิตกกังวล (Anxiety) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีภาวะออทิสติก
- บางครั้งอาการอาจไม่แสดงออกเหมือนคนทั่วไป เด็กอาจเงียบ หลีกหนี ซ้ำพฤติกรรม หรือเกิดการระเบิดอารมณ์เมื่อเครียด
- เป้าหมายของการรับมือคือ ช่วยให้เด็กสามารถควบคุมอารมณ์ ลดความเครียด และรู้สึกปลอดภัย
- ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีซับซ้อน แต่ต้อง สม่ำเสมอ และ เหมาะกับบุคคล
หลักคิดสำคัญก่อนเริ่มช่วยเหลือ
- ความวิตกกังวลของเด็กออทิสติก ไม่ใช่การดื้อหรือเรียกร้องความสนใจ
- เด็กอาจไม่สามารถบอกความรู้สึกได้ตรง ๆ แต่ร่างกายและพฤติกรรมจะส่งสัญญาณ
- การเข้าใจ สาเหตุที่แท้จริง ของความเครียดสำคัญกว่าการพยายามหยุดพฤติกรรม
ระบุสิ่งกระตุ้น (Identify Triggers) ก่อนจะช่วยลดความวิตกกังวล ต้องรู้ว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้น เช่น
- ปัจจัยสิ่งแวดล้อม: เสียงดัง แสงจ้า กลิ่นที่รุนแรง
- การเปลี่ยนกิจวัตรโดยไม่เตือนล่วงหน้า
- สถานที่แออัด หรือการเข้าสังคม
- การถูกบังคับให้ทำสิ่งใหม่
- ความเหนื่อย ความหิว หรือการนอนน้อย
เคล็ดลับ: ควรจดบันทึกพฤติกรรมและสถานการณ์ทุกครั้งที่เกิดความเครียด เพื่อหาลักษณะร่วมฃ
กลยุทธ์รับมือ (Coping Strategies)
1. สร้างกิจวัตรที่คงที่ (Structured Routine)
- เด็กออทิสติกจะรู้สึกปลอดภัยเมื่อชีวิต คาดเดาได้
- ใช้ ตารางภาพ (Visual Schedule) เพื่อแสดงกิจกรรมประจำวัน
- เตือนล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนกิจกรรม เช่น อีก 5 นาทีเราจะเก็บของเล่นนะ
ผลลัพธ์: ลดความเครียดจากความไม่แน่นอนและเพิ่มความรู้สึกควบคุมสถานการณ์ได้
2. ใช้เครื่องมือทางประสาทสัมผัส (Sensory Tools)
- หูฟังตัดเสียง (noise-canceling headphones)
- ของเล่นบีบ/ของเล่นหมุน (fidget toys, stress ball)
- ผ้าห่มถ่วงน้ำหนัก (weighted blanket)
- การออกกำลังกายเบา ๆ หรือการแกว่งตัว
เด็กแต่ละคนไวต่อประสาทสัมผัสต่างกัน บางคนอาจชอบความเงียบ บางคนต้องการแรงสัมผัส
3. สร้าง พื้นที่ปลอดภัย (Calm-down Space)
- พื้นที่ที่เด็กสามารถไปพักเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ
- ควรมีสิ่งที่ช่วยสงบใจ เช่น หมอน ผ้าห่ม หนังสือ ของเล่นชิ้นโปรด
- สอนให้เด็กรู้ว่าการไปพัก ไม่ใช่การถูกลงโทษ แต่เป็นการดูแลตัวเอง
4. เทคนิคควบคุมร่างกาย (Self-Regulation Skills)
- การหายใจลึก ๆ (Deep Breathing): หายใจเข้า 4 วินาที กลั้น 4 วินาที หายใจออก 4 วินาที
- การนับเลขหรือจังหวะ: 1234 ช่วยเบี่ยงความสนใจ
- โยคะ/ยืดเหยียด: ช่วยคลายความตึงเครียดในร่างกาย
เหมาะกับวัยเรียนขึ้นไป ที่เริ่มเข้าใจคำแนะนำและทำตามคำสั่งได้
5. การสื่อสารและการแสดงอารมณ์ (Communication & Emotional Expression)
- ใช้ ภาพสัญลักษณ์หรือการ์ดอารมณ์ เพื่อให้เด็กแสดงว่า ฉันรู้สึกกลัว, ฉันเหนื่อย, ฉันอยากอยู่คนเดียว
- สำหรับเด็กที่พูดไม่ได้ ใช้แอปสื่อสาร (AAC apps) หรือบัตรคำ
- ฝึกให้เด็กใช้คำพูดแทนการระเบิดอารมณ์ เช่น ขอพักหน่อย แทนการกรีดร้อง
- ชมเมื่อเด็กจัดการอารมณ์ได้ดี เช่น หนูเก่งมากที่ขอพักแทนการร้องไห้
- ใช้สติ๊กเกอร์หรือรางวัลเล็ก ๆ เป็นแรงจูงใจ
- หลีกเลี่ยงการตำหนิ เพราะจะยิ่งเพิ่มความกังวล
- ใช้การเล่นบทบาทสมมุติ เช่น ถ้าเสียงดังมาก หนูจะทำยังไงดี?
- ให้เด็กคิดวิธีเอง เช่น เอาหูฟัง, ไปมุมสงบ, บอกครู
- ช่วยเสริมความมั่นใจและลดการพึ่งพาผู้ใหญ่ทุกครั้งที่เกิดปัญหา
8. ร่วมมือกับโรงเรียนและนักบำบัด
- แจ้งครูและเพื่อนสนิทให้รู้ว่าสัญญาณเตือนของเด็กคืออะไร (เช่น มือเริ่มปิดหู แปลว่ากำลังเครียด)
- จัดแผน anxiety plan ร่วมกับครู เช่น ให้พักระหว่างคาบ หรือใช้ห้องเงียบ
- นักบำบัดสามารถช่วยฝึกทักษะการรับมือแบบ CBT หรือ Sensory Integration
️สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- การบังคับให้อยู่ในสถานการณ์ที่กังวล โดยไม่เตรียมใจ
- การพูดว่า ไม่มีอะไรต้องกลัว หรือ อย่าคิดมาก
- การใช้การลงโทษเมื่อเด็กโวยวาย ระเบิดอารมณ์ หรือหลีกเลี่ยง
- การเปลี่ยนกิจวัตรกระทันหันโดยไม่เตือน
- จัดกิจวัตรประจำวันให้คงที่
- เตรียม กล่องเครื่องมือสงบใจ (calm kit)
- ใช้คำพูดสั้น ชัด และไม่เร่งรัด
- ให้รางวัลความพยายาม ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์
- ดูแลสุขภาพใจของตัวเองด้วย เพราะความสงบของผู้ใหญ่ส่งผลต่อเด็กโดยตรง


