แชร์

ออทิสติกและโรคลมชัก: มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่?

ออทิสติกและโรคลมชัก: มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่?

ความสัมพันธ์ระหว่างออทิสติกกับโรคลมชัก
  • งานวิจัยจำนวนมากพบว่า โรคลมชักพบได้บ่อยในบุคคลที่เป็นออทิสติก มากกว่าคนทั่วไป
  • ประมาณ 2030% ของเด็กออทิสติกอาจมีอาการชัก ในช่วงหนึ่งของชีวิต
  • ความสัมพันธ์นี้คาดว่าเกิดจาก:
  • ความผิดปกติในการพัฒนาและเชื่อมต่อของสมอง
  • ปัจจัยทางพันธุกรรมบางชนิดที่เกี่ยวข้องทั้งออทิสติกและลมชัก
  • ความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง (เช่น กรดกลูตามิกและกาบ้า)


ประเภทของอาการชักที่มักพบ

1. อาการชักแบบเหม่อ (Absence seizures)

  • เด็กหยุดกิจกรรมชั่วขณะ เหม่อเหมือน หลุดออกจากโลกความจริง
  • มักกินเวลาเพียงไม่กี่วินาที
2. อาการชักเฉพาะที่ (Focal seizures)
  • กล้ามเนื้อกระตุกเฉพาะส่วน เช่น มือ ใบหน้า
  • เด็กอาจพูดไม่ได้ชั่วขณะ
3. อาการชักทั้งตัว (Generalized seizures)
  • เกร็ง กระตุกทั่ร่างกาย หมดสติ
  • อาจล้มลงกะทันหัน มีความเสี่ยงบาดเจ็บสูง
สัญญาณที่ผู้ปกครองควรสังเกต
  • เด็ก หยุดนิ่ง/เหม่อ บ่อย ๆ และไม่ตอบสนอง
  • การกะพริบตาหรือขยับริมฝีปากซ้ำ ๆ โดยไม่รู้ตัว
  • การกระตุกหรือชักของแขนขา
  • ความสับสนหรืออ่อนเพลียหลังจากมีอาการ
  • พฤติกรรมซ้ำ ๆ ที่ไม่ปกติ เช่น หัวเราะ ร้องไห้ หรือเคลื่อนไหวโดยไร้เหตุผล

ผลกระทบเมื่อออทิสติกกับโรคลมชักเกิดร่วมกัน
  • พัฒนาการทางภาษาและการเรียนรู้ล่าช้า มากขึ้น
  • มีปัญหาในการจดจำ การสื่อสาร และสมาธิ
  • เพิ่มความเครียดให้กับผู้ปกครองและผู้ดูแล
  • หากควบคุมอาการไม่ได้ อาจกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก

แนวทางการดูแลและจัดการ

1. การวินิจฉัยและการตรวจ

  • ควรพาไปพบแพทย์หากสงสัยว่ามีอาการ
  • การตรวจ EEG (คลื่นไฟฟ้าสมอง) ใช้ยืนยันการชัก

2. การใช้ยา

  • มียากันชักหลายชนิดที่ช่วยควบคุมอาการได้
  • ต้องติดตามผลข้างเคียงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กที่มีภาวะออทิสติก
3. การดูแลด้านสิ่งแวดล้อม
  • ทำบ้านให้ปลอดภัย เช่น ติดมุมกันกระแทก เก็บของแหลมคม
  • ระวังใกล้น้ำหรือพื้นที่สูง

4. การฝึกทักษะและความรู้แก่ครอบครัว/โรงเรียน

  • ครู เพื่อน และผู้ดูแลควรรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการชัก
  • เช่น นอนตะแคงเพื่อป้องกันการสำลัก, ไม่ยัดสิ่งใดเข้าปาก
5. การบันทึกและเฝ้าระวังอาการ
  • บันทึกเวลา ความถี่ และสิ่งกระตุ้นที่อาจเกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลนี้ช่วยแพทย์ในการปรับแผนการรักษา


บทความที่เกี่ยวข้อง
การรับมือกับการเลือกกินในเด็กออทิสติก
ARFID (Avoidant/Restrictive Food Intake Disorder) คือความผิดปกติด้านการกินที่เด็กปฏิเสธอาหารบางชนิดอย่างรุนแรง หรือรับประทานอาหารได้น้อยมาก จนอาจทำให้ขาดสารอาหาร น้ำหนักไม่เพิ่มตามวัย หรือพัฒนาการชะงักได้ เด็กที่เป็น ออทิสติกมีแนวโน้มพบ ARFID มากขึ้น เมื่อเทียบกับประชากรทั่วไป พฤติกรรมการกินมักเชื่อมโยงกับปัญหาการรับรู้ทางประสาทสัมผัส (sensory processing) และรูปแบบพฤติกรรมที่ยึดติดกับกิจวัตร
การจัดการพฤติกรรมและอารมณ์เมื่อต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงในเด็กออทิสติก
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กออทิสติก แต่ ด้วยการเตรียมล่วงหน้า กิจวัตรที่ชัดเจน การสนับสนุนทางอารมณ์ และความร่วมมือกับโรงเรียน จะช่วยให้เด็กค่อย ๆ ปรับตัวได้ดีขึ้น ลดพฤติกรรมที่ยากลำบาก และสร้างความมั่นใจในการเผชิญสิ่งใหม่ ๆ
เครื่องมือและวิธีรับมือ ความโกรธและอาการระเบิดอารมณ์ ในเด็กออทิสติก
เด็กออทิสติกมักมีความท้าทายด้าน การสื่อสาร และ การควบคุมอารมณ์ เมื่อพวกเขาไม่สามารถบอกความต้องการหรือความรู้สึกได้ เกิดความ หงุดหงิด และนำไปสู่อารมณ์โกรธหรือการระเบิดอารมณ์ (tantrums)
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy